ราหู ในราศีเมษ ( Aries )
• ชาวราหูในราศีเมษ เป็นคนรักอิสระเสรี ไม่ค่อยยึดมั่นกับสิ่งใดนาน ๆ รู้จักตัวเอง มีแรงกระตุ้นอยู่ภายในที่ทำให้กล้าหาญที่จะลงมือทำ มีความคิดที่สร้างสรรค์ แต่มักจะกังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับตัวเองมากเกินไป พยายามจะเป็นคนดีไปเสียทุกเรื่อง ยึดมั่นในความยุติธรรมและความถูกต้อง ติดกับความเป็นอยู่ที่สบาย และบางทีก็เจ้าคิดเจ้าแค้นมากไป
จุดอ่อนและหลุมพราง
จุดอ่อนของชาวราหูเมษคือ มักจะปักธงให้ตัวเองในเรื่องของความยุติธรรมไว้ก่อนแล้ว ความสำเร็จของตัวเองมักจะขึ้นอยู่กับผู้อื่นที่จะต้องเล่นอยู่ในกรอบ ความคิดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงในอารมณ์ของตัวเอง ชาวราหูเมษที่มีพรสวรรค์โดยธรรมชาติ รักความยุติธรรมและไม่เอาเปรียบผู้อื่น รู้จักให้โดยไม่คิดหวังสิ่งตอบแทน
• สิ่งที่ต้องระวังของชาวราหูเมษคือ การมองหาความสัมพันธ์ด้านความรักกับคนที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ เหมือนกับว่าเป็นการเติมเต็มในชีวิตตัวเอง จริงๆ แล้ว สิ่งที่มองหาอยู่เป็นเพียงความฝันของตัวเอง เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนรักที่สมบูรณ์แบบนั้นไม่มีอยู่จริง ๆ
• เบื้องลึกแล้ว ความสุขของชาวราหูเมษขึ้นอยู่กับผู้อื่น หรือรอให้ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนรักเป็นคนอนุมัติว่า ” เอาหล่ะ มีความสุขได้แล้ว ” โดยไม่จำเป็นต้องพูดออกมา ซึ่งชาวราหูเมษน่าที่จะเสี่ยงแสวงหาความสุขในชีวิตด้วยตัวเอง เพราะไม่ว่าจะพาชีวิตเติบโตไปในทิศทางใด คนรักและเพื่อนจะคอยให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนได้อยู่แล้ว
ความต้องการในชีวิต
• ประสบการณ์ของชีวิตแบบที่มีความสุข มีความยุติธรรม มีการแบ่งปันความรัก เป็นสิ่งที่ชาวราหูเมษต้องการ เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ ชาวราหูเมษต้องเป็นตัวของตัวเอง เรียนรู้ความต้องการของตัวเองที่แท้จริง สร้างความมั่นใจ หมั่นดูแลใจตัวเอง สร้างความสมดุลระหว่างความพอใจของตัวเองและของผู้อื่น
• การทำสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองแล้ว ยังเป็นการทำให้ความสัมพันธ์ด้านความรักต่อผุ้อื่นยั่งยืนมากขึ้น จำไว้ว่า ไม่มีใครที่อยากจะรักคนที่ไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ นอกจากว่า คนเหล่านั้นกำลังหาประโยชน์จากผู้อื่น
อาชีพและการงาน
• ชาวราหูเมษมีความสามารถที่จะ ” ทำสิ่งที่ตนเองต้องการ ” โดยไม่จำเป็นต้องฟังผู้อื่น เพียงฟังแค่ความรู้สึกตนเอง เพราะชาวราหูเมษมีความเป็นผู้นำ นักประดิษฐ์ และผู้บุกเบิก อาชีพที่เหมาะกับเขาหรือเธอเหล่านี้ คืออาชีพที่สามารถจะใช้สัญชาตญานของตัวเอง ชาวราหูเมษจะประสบความสำเร็จในอาชีพอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นกับผู้อื่นมากนัก เช่น แพทย์ ช่างเทคนิค เจ้าของกิจการ เป็นต้น
• มีความเชื่อว่า ในชาติก่อน ๆ ชาวราหูเมษมีพรสวรรค์ในการเข้าใจคนอื่น มีลิ้นการทูต และยึดมั่นในคุณธรรม สิ่งเหล่านี้ยังคงซ่อนอยู่ภายในและเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ไปสู่ความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงคราวที่ชีวิตจริงต้องการปรับประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ชาวราหูเมษกลับทำได้ไม่ค่อยดีนัก ทั้งๆ ที่มีความสามารถมากกว่านี้
อารมณ์ความรัก
• คนที่มีราหูสถิตย์อยู่ในราศีเมษสั่งสมประสบการณ์ความรักไว้อย่างมากมาย ภายในตัวเอง และเข้าใจในเรื่องของความสัมพันธ์ พร้อมที่จะรัก และรับความรักจากผู้อื่น ความรักที่ซ่อนไว้นี้จะส่งกระแสให้ คนที่พบหรือคนที่อยู่ใกล้รู้สึกได้
• ชาวราหูเมษยังสามารถที่จะเข้าใจคนที่พบในด้านต่างๆ รวมถึงด้านร้าย ที่คนเหล่านั้นพยายามปกปิดไว้ด้วย ไม่ว่าตัวตนของคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร เช่นแข็งกระด้าง มีอำนาจ เต็มไปด้วยพลัง หรือมีธรรมะในใจ ชาวราหูเมษจะยอมรับได้หมด แต่พอถึงทีตัวเองกลับยอมรับความเป็นตัวของตัวเองได้ยากกว่า
• หลายครั้งที่ชาวราหูเมษเริ่มมีความสัมพันธ์กับใครอย่างจริงจัง ปีศาจที่สิงอยู่ในใจเริ่มออกฤทธิ์ด้วยการทำให้ตัวเองรู้สึกต่ำต้อย ไม่ดีพอสำหรับคนอื่น แล้วก็ทำให้ตัวเองถอยหลัง ไม่กล้าสานความสัมพันธ์ต่อ ความจริงแล้ว ถ้าชาวราหูเมษคิดให้ดี และหันมาดูแลความรู้สึกของตัวเอง คิดถึงสิ่งดีดีที่มีอยู่ ถ้ารู้จักรักตัวเอง ปีศาจด้านมืดเหล่านี้ก็จะพ่ายแพ้ไปตลอดกาล ความสัมพันธ์ด้านสังคมและความรักก็จะราบรื่น และชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้น
ความสัมพันธ์
• การผูกมัดกับคนรักที่มากเกินไป มักจะเป็นปัญหาพื้นฐานสำหรับชาวราหูเมษ ความจริงแล้ว อาจจะมากกว่าการผูกมัด เพราะหลายครั้งที่อารมณ์และความรู้สึกของคนรัก อยู่ใต้ครอบครองตัวตนของชาวราหูเมษอย่างหมดสิ้น
• เมื่อไรที่คนรักรู้สึกโกรธ หรือแสดงอารมณ์ร้าย ชาวราหูเมษก็จะรีบกุลีกุจอเอาอกเอาใจเพื่อแก้สถานการณ์ หรือทำอย่างไรก็ได้ให้โลกแห่งความรักของตัวเองสงบสุชอีกครั้ง ชาวราหูเมษมักจะคิดว่ารู้จักความคิดของคนรักดีเหมือนตัวเอง แต่กว่าจะรู้ตัวว่าเข้าใจผิด ความรักก็ทำท่าจะแย่ลงไปอีก
• ถ้าชาวราหูเมษ ใช้ความสังเกตุสักนิดก็จะรู้ว่า การพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นนั้นไม่ได้ผล ต้องเริ่มที่ตัวเอง ถ้ามีปัญหา ชาวราหูเมษควรจะขอโทษคนรักอย่างสุภาพ และขอใช้เวลากับตัวเองเพียงลำพังสักพัก
• อีกอย่างหนึ่งที่ชาวราหูเมษควรทราบก็คือ ความใกล้ชิดกับคนรักที่มากเกินไป ทำให้มองภาพกว้างไม่เห็น การมีระยะห่างระหว่างคนสองคนจะทำให้มีความเข้าใจกันและกันได้มากกว่า อย่าลืมว่าตัวตนของแต่ละคนมีความสำคัญเท่าๆ กัน และแต่ละคนก็ต้องมีโลกส่วนตัวที่สงบในบางครั้งด้วย
จุดหมายในชีวิต
• ช่วงชีวิตของชาวราหูเมษ ควรใช้เวลาไปในการค้นหาตัวตน เคล็ดลับอย่างหนึ่งคือ ความกล้าหาญที่จะเชื่อในสัญชาตญานของตัวเอง อาจจะฟังดูไม่ค่อยมีเหตุผล แต่วิธีนี้จะทำให้ชีวิตของตัวเองมีคุณค่า แม้ว่าบางครั้งอาจจะเสียใจ เจ็บปวด และต้องเสี่ยง แต่ก็จะทำให้ชาวราหูเมษรู้จักตัวตนได้ดีที่สุด หนทางที่เดินไปจะเป็นประสบการณ์ที่เผยว่า เราคือใคร ผลแห่งการกระทำหรือสุดปลายทางนั้นไม่สำคัญเท่าไหร่
• เมื่อชาวราหูเมษ มองตัวเองผ่านสายตาผู้อื่น หรือเอาแต่คิดว่าผู้อื่นอยากให้ตัวเองเป็นอย่างไร ก็อยากจะขอให้คิดสักนิดว่า ” ตัวเราอยากเป้นอย่างนั้นจริงๆ หรือ ? ” ชาวราหูเมษต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร และวิธีหนึ่งก็คือ ฟังเสียงที่เกิดจากใจตัวเอง
• การมองผ่านสายตาผู้อื่น อาจจะเรียกอีกนัยหนึ่งได้ก็คือ การสูญเสียตัวตน มันทำให้ความเชื่อมั่นลดลง เพราะจะทำอะไรสักอย่างก็ขึ้นอยู่กับผู้อื่นที่กำลังมอง เมื่อไหร่ที่ชาวราหูเมษเริ่มมองอะไรๆ ผ่านสายตาตัวเอง เมื่อนั้นความมั่นใจและพลังในตัวเองก็จะเพิ่มขึ้น แล้วก็ไม่จำเป็นด้วยว่า การกระทำเหล่านั้นต้องเป็นเหตุเป็นผลอย่างเดียว บางอย่างเป็นเพียงแค่อารมณ์ก็เพียงพอแล้ว
เชื่อในสัญญานเตือน
• ชาวราหูเมษมักจะเสแสร้งว่า ทุกอย่างไม่มีปัญหา การมีความรู้สึกไม่ดีต่อบางสิ่งบางอย่างมักจะทำให้ตัวเอง ไม่สบายใจ อึดอัด ทางที่ดีก็เลยไม่ทำอะไรแล้วอยู่เฉยๆ ดีกว่า บางทีกว่าจะรู้ตัวก็อาจจะละเลยมาเป็นอาทิตย์แล้วในบางครั้ง เช่น รู้สึกโกรธใครบางคนที่เหตุการณ์ผ่านไปแล้วตั้งนาน
• หรือเพื่อนๆ อาจจะถามทักทายว่า ” ได้ข่าวว่าไปเที่ยวต่างประเทศมา เป็นอย่างไรบ้าง ” ชาวราหูเมษก็อาจจะตอบว่า ” ถามก็ดีแล้ว จะบอกให้ว่า จริงๆ แล้วไม่สนุกหรอก ” ทั้งๆ ที่หลังกลับจากเดินทางกลับมา ก็เที่ยวบอกใครๆ ว่า ” ดีมาก สนุกมาก ชอบมาก “
• วิธีที่ดีสุดคือ ต้องให้เวลาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ขอย้ำว่า ” อย่างสม่ำเสมอ ” หรือให้ติดเป็นนิสัยให้ดี การให้เวลาตัวเองนี้ควรจะเป็นการฝึกสัมผัสกับความรู้สึกตัวเองอยู่ภายใน ถ้าใช้คำง่ายๆ ก็คือ ฟังเสียงหัวใจตัวเองนั่นเอง พยายามคิดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วประเมินว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่
• บางครั้งความรู้สึกเหล่านี้ยังไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นรู้ก็ไม่เป็นไร อาจจะบอกคนใกล้ตัวไปเลยว่า ” ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉัยรู้สึกอย่างนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ? ” หรือ ” ฉันรู้สึกโกรธโดยยังหาเหตุผลไม่ได้ ยังไงก็ขออยู่คนเดียวสักพัก แล้วค่อยคุยกันใหม่ ” อะไรทำนองนั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายคนรอบข้างหรือเอาใจคนอื่น โดยไม่เอาใจตัวเอง
• การมีความรู้สึกไม่ดีสำหรับบางสิ่ง และบางเรื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ชาวราหูเมษต้องเข้าใจและเรียนรู้ในชีวิตนี้ ความรู้สึกลบ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติมนุษย์ แต่การเก็บกดเอาไว้ต่างหากที่ผิปรกติ ถ้าจะรู้สึกโกรธ ไม่ชอบ หรือแสดงความกลุ้มใจและเป็นทุกข์ ก็ให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามวิถีของมันจะดีที่สุด
ผู้นำ
• ชาวราหูเมษ ยินดีที่จะร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น ให้การสนับสนุนและมีความเป็นผู้นำ แต่ส่วนมากพอใจที่จะทำงานที่คนอื่นไม่ให้ความสนใจ สาเหตุนี้จึงทำให้ต้องทำงานหนักเพราะต้องหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง แล้วส่วนมาก เขาหรือเธอเหล่านี้ก็ทำได้ดี ถือเป็นการเติบโตและพัฒนาการของชีวิตก้าวใหญ่
• การทำอะไรซ้ำๆ ไม่ใช่นิสัยของชาวราหูเมษ ไม่ว่าจะมีผลประโยชน์ใหญ่ขนาดไหนรออยู่ การทำงานที่ไม่เหมือนคนอื่นเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง การวิเคราะห์สิ่งต่างๆ มักจะทำด้วยความลึกซึ้งมากกว่าราศีอื่น
• ความเป็นผู้นำของชาวราศีเมษ คือการรู้จักให้คนรอบข้างรู้จักควบคุมให้ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงาน อยู่ในบรรยากาศที่มีความเป็นหนึ่ง และมีอารมณ์ร่วมที่จะไปให้ถึงความสำเร็จ
• แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ ทุกอย่างมักจะไม่เป็นไปอย่างที่คิด ชาวราหูเมษมักจะเข้าใจว่า เมื่อให้การสนับสนุนผู้อื่นแล้ว เขาเหล่านั้นก็น่าจะเข้าใจและทำอย่างเดียวกันต่อผู้ที่อยู่รอบข้างด้วย ทำให้หลายครั้งที่ชาวราหูเมษต้องเอาใจใส่กับคนพวกนี้มากกว่าปรกติ อาจจะเป็นการสอนงาน สอนวิธีที่จะอยู่ร่วมกัน และอาจจะต้องเสแสร้งว่าอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาด้วย
• ชาวราหูเมษ ควรจะนำคนที่ต้องการให้นำ คิดถึงแต่สิ่งที่ต้องการจากคนเหล่านั้นเป็นหลัก และทำแต่สิ่งที่จำเป็น เพื่อให้กิจกรรมสำเร็จ ไม่ควรคิดแทนคนอื่นหรือคาดหวังในสิ่งที่เกินจากสิ่งที่ต้องการ บางครั้ง ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานทำไม่ถูก แต่ไม่กระทบการงานใหญ่ ก็ควรปล่อยผ่าน ไม่ แม้แต่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำ